หนัง PU เป็นวัสดุสังเคราะห์ที่มนุษย์สร้างขึ้น เป็นหนังเทียมที่มักมีลักษณะและสัมผัสเหมือนหนังแท้ แต่ราคาถูก ไม่ทนทาน และอาจมีสารเคมี
หนัง PU ไม่ใช่หนังแท้ หนัง PU เป็นหนังเทียมชนิดหนึ่ง ทำจากวัสดุไฟเบอร์เคมี ในขณะที่หนังแท้ผลิตและแปรรูปจากหนังสัตว์ หนังแท้ที่กล่าวถึงในท้องตลาดโดยทั่วไปจะเป็นหนังชั้นที่ 1 และหนังชั้นที่ 2
หนัง PU ซึ่งมีชื่อเต็มว่าหนังโพลียูรีเทน เป็นวัสดุสังเคราะห์ที่ทำโดยการเคลือบโพลีเมอร์สังเคราะห์บนพื้นผิวของเส้นใยสัตว์ สารเคลือบเหล่านี้มักประกอบด้วยโพลียูรีเทน หนัง PU มีความทนทานต่อการสึกหรอ การระบายอากาศ ความทนทานต่อความชรา และความยืดหยุ่นได้ดีเยี่ยม ลักษณะที่ปรากฏนั้นเหมือนกับหนังแท้มากที่สุด และมีคุณสมบัติทางกายภาพบางอย่างที่ดีกว่าหนังธรรมชาติด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตาม เมื่อเปรียบเทียบกับหนังแท้แล้ว หนัง PU มีความแตกต่างในด้านความทนทาน การดูแลรักษา และการปกป้องสิ่งแวดล้อม
หนัง PU ทำขึ้นมาได้อย่างไร? ชื่อเต็มของหนัง PU คือหนังโพลียูรีเทน ทำโดยการทาโพลียูรีเทนเรซินบนผ้าหรือผ้าไม่ทอ จากนั้นผ่านกระบวนการต่างๆ เช่น การทำความร้อนและการปั๊มนูนเพื่อให้มีสี พื้นผิว และความหนาที่แตกต่างกัน หนัง PU สามารถเลียนแบบรูปลักษณ์และสัมผัสของหนังแท้ได้หลากหลาย เช่น หนังวัว หนังแกะ หนังหมู เป็นต้น
หนัง PU มีข้อดีอย่างไร? อย่างแรก หนัง PU ค่อนข้างเบาและไม่ทำให้เท้าเป็นภาระ ประการที่สอง หนัง PU ทนทานต่อการสึกหรอมากกว่า และไม่เกิดรอยขีดข่วนหรือเสียหายง่าย ประการที่สาม หนัง PU ทำความสะอาดง่ายกว่า เพียงเช็ดด้วยผ้าชุบน้ำหมาดๆ ในที่สุดหนัง PU ก็เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากกว่าและไม่ก่อให้เกิดอันตรายหรือขยะต่อสัตว์
แล้วข้อเสียของหนัง PU คืออะไร? ประการแรก หนัง PU ไม่สามารถระบายอากาศได้ ซึ่งทำให้เท้าเหงื่อออกหรือเหม็นได้ง่าย ประการที่สอง หนัง PU ไม่ทนต่ออุณหภูมิสูง และมีแนวโน้มที่จะเสียรูปหรือเสื่อมสภาพได้ง่าย ประการที่สาม หนัง PU ไม่นุ่มและสบายเพียงพอ และไม่มีความยืดหยุ่นและพอดีเหมือนหนังแท้ ในที่สุด หนัง PU ก็ไม่ได้หรูหราและเจ้าอารมณ์เพียงพอ และไม่มีความมันวาวและพื้นผิวของหนังแท้
วิธีการแยกหนัง PU จากหนังแท้ ได้แก่:
แหล่งที่มาและส่วนผสม: หนังแท้มาจากหนังสัตว์ และหลังจากการฟอกหนังและกระบวนการอื่นๆ ก็จะมีพื้นผิวและสัมผัสที่เป็นธรรมชาติอันเป็นเอกลักษณ์ หนัง PU เป็นหนังเทียมที่มีเรซินโพลียูรีเทนเป็นส่วนประกอบหลัก เกิดจากปฏิกิริยาเคมี มีความทนทานต่อการสึกหรอ ทนต่อรอยยับ และทนทานต่อการเสื่อมสภาพได้ดี
รูปลักษณ์และสัมผัส: หนังแท้ให้สัมผัสที่เป็นธรรมชาติและสมจริงด้วยพื้นผิวที่เป็นธรรมชาติอันเป็นเอกลักษณ์ แม้ว่าหนัง PU จะสามารถเลียนแบบพื้นผิวและสัมผัสของหนังแท้ได้ แต่ภาพรวมก็ยังดูเทียมอยู่ หนังแท้มีเส้นที่ชัดเจนมาก และแต่ละชิ้นมีความแตกต่างกัน เส้นของหนัง PU มีความเบลอและซ้ำซากมากขึ้น หนังแท้ให้ความรู้สึกนุ่มและยืดหยุ่น ละเอียดอ่อนและเรียบลื่น หนัง PU ให้ความรู้สึกอ่อนแอและฝาดเล็กน้อย
ความทนทาน: หนังแท้มักจะมีความทนทานมากกว่า มีความเหนียวและความยืดหยุ่นสูง และสามารถทนต่อแรงกระแทกและการเสียดสีจากภายนอกได้ แม้ว่าหนัง PU จะมีความทนทานต่อการสึกหรอได้ดี แต่ก็อาจประสบกับความชรา การแตกร้าว และปัญหาอื่นๆ หลังจากการใช้งานในระยะยาว
การบำรุงรักษาและการดูแลรักษา: หนังแท้ต้องมีการบำรุงรักษาและการดูแลรักษาอย่างสม่ำเสมอ และใช้สารดูแลหนังแบบพิเศษเพื่อทำความสะอาด เพิ่มความชุ่มชื้น และกันน้ำ หนัง PU ค่อนข้างดูแลง่ายเพียงเช็ดด้วยผ้าชุบน้ำหมาดๆ
การปกป้องสิ่งแวดล้อม: หนังแท้มาจากหนังสัตว์ และมีของเสียและมลภาวะในกระบวนการผลิตค่อนข้างน้อย เนื่องจากเป็นหนังเทียม หนัง PU อาจทำให้เกิดมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อมในกระบวนการผลิต
เกี่ยวกับกลิ่น: หนังแท้มีกลิ่นหนังธรรมดาและเมื่อเวลาผ่านไปจะมีกลิ่นหอมมากขึ้น หนัง PU จะมีกลิ่นพลาสติกแรงกว่า หนังแท้จะหดตัวและมีกลิ่นเหมือนผมไหม้เมื่อโดนเปลวไฟ หนัง PU จะละลายและมีกลิ่นคล้ายพลาสติกไหม้เมื่อโดนเปลวไฟ
การบังคับใช้ในโอกาสต่างๆ
การสวมใส่ประจำวัน: สำหรับผลิตภัณฑ์เครื่องหนังที่สวมใส่ในชีวิตประจำวัน เช่น รองเท้าและกระเป๋าถือ ผู้บริโภคสามารถเลือกได้ตามความต้องการและงบประมาณ หากคุณแสวงหาความสบายและการระบายอากาศ หนังแท้ถือเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า หากคุณให้ความสำคัญกับราคาและรูปลักษณ์ที่หลากหลายมากขึ้น หนัง PU ก็เป็นตัวเลือกที่ดีเช่นกัน
โอกาสพิเศษ: ในโอกาสพิเศษบางโอกาส เช่น การประชุมทางธุรกิจ งานเลี้ยงอาหารค่ำแบบเป็นทางการ ฯลฯ ผลิตภัณฑ์หนังแท้มักจะสะท้อนถึงความสง่างามและอารมณ์อันสง่างาม ในโอกาสสบายๆ เช่น กีฬากลางแจ้ง การเดินทาง ฯลฯ ผลิตภัณฑ์หนัง PU ได้รับความนิยมเนื่องจากมีน้ำหนักเบาและทนทาน
โดยสรุป หนัง PU และหนังแท้ต่างก็มีลักษณะเฉพาะและสถานการณ์ที่แตกต่างกันไป ผู้บริโภคควรตัดสินใจเลือกตามความต้องการและงบประมาณเมื่อซื้อ
หนังแท้
หนังเทียม
เวลาโพสต์: 23 ส.ค.-2024